พิพิธภัณฑ์คิทาโร่ หรือพิพิธภัณฑ์ Mizuki Shigeru เมือง Sakaiminato จังหวัด Tottori
พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งชื่อตามนักวาดการ์ตูนผู้สร้างสรรค์ให้มังงะอย่างคิทาโร่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่เด็ดคืออาจารย์นักวาดท่านนี้ แกมีแขนเพียงข้างเดียวจ้ะ!!!! เพราะแกเสียแขนข้างซ้ายไปในสงคราม เวลาวาดก็ใช้มือขวาวาดไป แล้วเอาไหล่ข้างซ้ายกดกระดาษไว้ไม่ให้เขยื้อน คิดดูสิว่ามันจะเมื่อยซักแค่ไหน!! อ่ะ ถ้าไม่เชื่อลองทำดู! … และมาถึงในยุคปัจจุบัน การ์ตูนเรื่องนี้ก็มีอายุปาเข้าไปเกือบ 60 ปีแล้วนะ ดังนั้น ถ้ายังเป็นวัยสะรุ่นอยู่ ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไม่เคยรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้!
ภายในพิพิธภัณฑ์จะให้อารมณ์ดาร์กๆ หน่อยนะ เพราะอาจารย์ท่านนี้แกมีชีวิตค่อนข้างกระเดียดไปทางโศกๆ นิดๆ คือแกจนมากกกก ชีวิตลำบากสุดๆ แกจึงมักสร้างปีศาจต่างๆ ออกมาตัดพ้อชีวิตแสนดาร์กของแก อย่างปีศาจที่อยู่กับใครแล้วจะไม่มีวันรวยอะไรทำนองนั้นละ และช่วงเริ่มต้นที่เขียนคิทาโร่เนี่ย การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้ดังเลยนะ เพราะตอนยุคแรกเนี่ย แกเขียนออกมาเป็นการ์ตูนผีจริงจัง ใช้ลายเส้นแบบโหดๆ น่ากลัวเลย คนเลยค่อนข้างกลัวและไม่นิยมอ่านกัน จนแกค่อยๆ มาปรับให้ซอฟท์ลงจนกลายเป็นอสูรน้อยตาเดียวที่มีวิญญาณพ่ออาศัยอยู่ในลูกกะตา คอยตามติดเกาะไหล่ไปมาพร้อมๆ กัน อย่างที่เห็นในตอนที่การ์ตูนมันดังแล้วนั่นละ
ที่บอกว่าดาร์กเพราะเหมือนแกใส่ความรันทดในชีวิตลงไปในงานเขียนและในลายเส้นด้วยอ่ะนะ แล้วยังสังเกตได้จากสารพัดผีที่แกสร้างขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเป็นผีที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ให้อารมณ์เหมือนกุศโลบายสอนเด็กๆ บ้านเรานั่นละ เช่นผีผ้าขี้ริ้ว จะมาเมื่อเราไม่ทำความสะอาดบ้าน ไรเงี้ยย ก็ตลกดีในความสร้างสรรค์ของแกอ่ะนะ
ใครขวัญอ่อนอาจจะรู้สึกผวานิดๆ เพราะมันให้อารมณ์คล้ายบ้านผีสิงมากกว่าการเข้ามาดูพิพิธภัณฑ์การ์ตูนที่หลายคนคุ้นเคย เนื่องจากมันปราศจากความมุ้งมิ้งทั้งหลายทั้งปวงโดยสิ้นเชิง แต่สำหรับคนชอบศิลปะ น่าจะเพลินอยู่นะ เพราะมีการแสดงผลงานหลายชิ้นที่น่าสนใจ อย่างต้นฉบับยุคแรกๆ ที่อาจารย์แกใช้วิธีจุดๆๆๆๆ ต่อกันจนกลายเป็นรูปหนึ่งรูปอ่ะ มันเจ๋งมากกกก แล้วแกก็เป็นคนให้สีชิ้นงานสวยสุดๆ โดยรูปผีปีศาจและรูปต่างๆ ของแก มันจะอยู่ในรูปของสีพาสเทลอ่ะ คอนทราสต์มะ งานอย่างโหดเลย แต่สีโคตรหวาน 555 แต่มันสวยนะ อยากให้คนชอบงานอาร์ตไปดู น่าจะเพลินเลย ไม่มีรูปมาฝากนะ เพราะบางจุดเค้าห้ามถ่ายรูปจ้ะ ปฏิบัติตามกฎกันหน่อยเนอะ จะได้ดูมีวัฒนธรรม
ความสนุกอีกอย่างอยู่ที่เหล่ามาสคอตที่ออกมาร่วมต้อนรับแบบสนุกและคีพคาแรคเตอร์มากกก คือพวกนางเก่งในเรื่องการเอนเตอร์เทนสุดๆ ต้องไปพบปะกันเองนะ
ความบันเทิงยังอยู่ที่ถนนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ที่เชื่อมต่อไปถึงสถานีรถไฟให้เดินมานั่นละ ตลอดทางจะมีจุดให้เแวะสแตมป์รูปผีปีศาจต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ เอาจริงจำไม่ได้ว่ากี่ตัว 555 แต่ถ้าเราสแตมป์ครบ เอาใบสแตมป์ไปรับของที่ระลึกจากทางพิพิธภัณฑ์ได้เลยจ้า แถมนางมีของให้แตกต่างกันตามจำนวนครั้งด้วยนะ อย่าถ้ามาครั้งแรกแล้วสแตมป์ครบ ได้ของรางวัลอย่างนึง ถ้าสแตมป์ครบ 5 ครั้ง หรือ 10 ครั้ง ก็จะได้ของรางวัลต่างๆ กันไป
ต้องบอกว่าเจ้าคีทาโร่เนี่ย เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนเมืองนี้นะ จะเห็นได้ตั้งแต่สนามบินเลยละ ถ้านั่งเครื่องมาลงที่สนามบิน Yonago นะ จะเห็นเจ้าผีทั้งหลายไปนั่งรออยู่ตั้งแต่ในสายุานรับกระเป๋าเลยจ้าา แล้วก็ยังตามมาให้เห็นเรื่อยๆ ในทุกมุมเมืองเลยละ ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับมังงะเรื่องนี้
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Tottori นั่งรถไฟไปสถานี Yonago แล้วต่อรถไฟสายคิทาโร่ ที่สถานี Sakai ไปลงที่สถานี Sakaiminato
เวลาเข้าชม: 9.00 – 17.00 น. (ปิดวันอังคาร)
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 700 เยน
